กฟผ.เปิดไลน์ธุรกิจใหม่ให้บริการระบบติดตามควบคุมและประหยัดพลังงาน“ENZY Platform”ประเดิมแก้โจทย์ใหญ่ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่EECเป็นรายแรก
บริษัท ซัมเทค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชั้นนำ ลงนามสัญญาตอบรับข้อเสนอ เชิงพาณิชย์ งานให้บริการระบบประหยัดพลังงาน ENZY Platform ของ กฟผ. หลังทดลองใช้มา 1 ปี มั่นใจสามารถควบคุม และลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองด้านพลังงานในโรงงานได้ พร้อมขยายการใช้งานในโครงการต่าง ๆ ของซัมเทคเพิ่มเติมในอนาคต เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 Mr.Yoshiyuki Yamashina ผู้จัดการโรงงาน บริษัท ซัมเทค (ประเทศไทย) จำกัด และนายณัฐพล รองศรีแย้ม หัวหน้ากองพัฒนาธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและระบบโครงข่ายไฟฟ้าดิจิทัล (กธฟ-ย.) ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (อพธ.) ร่วมลงนามสัญญางานให้บริการระบบประหยัดพลังงาน ENZY Platform ระหว่าง กฟผ. และบริษัท ซัมเทค (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี Mr.Yuji Annomae ผู้จัดการฝ่ายผลิตและการบริหาร และนายสไกร คงธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่อง–2 (ช.อพธ-2.) ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ในการนี้ Mr.Takashi Yoshida ผู้จัดการฝ่ายบำรุงรักษา และนายสมชาย โชคมาวิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม (อวน.) ได้เข้าร่วมในพิธี พร้อมร่วมพูดคุยถึงความร่วมมือครั้งนี้ ณ บริษัท ซัมเทค (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายสมชาย โชคมาวิโรจน์ อวน. กล่าวว่า กฟผ. ได้ร่วมมือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผลักดัน Platform การประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ปี 2562 โดยในปี 2563 ได้ร่วมลงนาม MOU และเลือกพื้นที่ EEC นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 3 เป็นหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมที่จะมีการทดลอง Platform ดังกล่าว โดยหน่วยงาน IT หน่วยงานวิจัย และพัฒนา และหน่วยงานพัฒนาธุรกิจของ กฟผ. ได้ร่วมกันออกแบบและดำเนินการ ภายใต้ชื่อ “ENZY Platform” และได้คัดเลือกโรงงานที่มีความสนใจ จำนวน 3 โรงงาน จากนั้นได้ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดและทำรายงาน เพื่อนำมาบริหารจัดการพลังงานภายในโรงงาน ซึ่งได้มีการทดลองใช้พร้อมทำการวิจัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า “กฟผ. สามารถเข้าไปช่วยในการวิเคราะห์ ปรับปรุงขั้นตอนการผลิต เพื่อให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนและคืนทุนได้ไวขึ้น โดยขณะนี้ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดที่เครื่องจักร เพิ่มจาก 3 จุด เป็น 20 จุด แล้ว และเป็นที่มาของการลงนามสัญญาในวันนี้ ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าศักยภาพและความเชี่ยวชาญ ของ กฟผ. รวมถึงประสบการณ์และการพัฒนานวัตกรรมเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมได้ เช่น อุปกรณ์ที่สามารถตรวจวัดข้อมูลเสียงและการสั่นสะเทือนของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ช่วยให้ทราบถึงเวลาที่เครื่องจักรจะต้องได้รับการบำรุงรักษาแล้วหรือไม่ และหากนำมาประยุกต์ใช้กับ ENZY Platform ก็จะช่วยเติมเต็มและตอบโจทย์ลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมได้ดียิ่งขึ้น นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของ กฟผ. ในด้านธุรกิจการให้บริการด้านพลังงาน นอกเหนือจากการผลิตและส่งไฟฟ้า ที่มีอยู่เดิม” อวน. กล่าวเสริม ด้าน Mr.Yoshiyuki Yamashina ผู้จัดการโรงงาน กล่าวว่า ซัมเทคเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก การได้ทดลองใช้ ENZY Platform ที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในโรงงาน จึงมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะลดความสิ้นเปลืองสูญเปล่าภายในโรงงานนี้ ซึ่ง ENZY Platform จะช่วยหาจุดที่ใช้ไฟฟ้าสิ้นเปลืองและทำการแก้ไขได้ จึงตัดสินใจลงนามสัญญาให้ กฟผ. เข้ามาช่วยดูแล เพราะซัมเทคมีโครงการอีกมากมายในอนาคตที่ตั้งใจจะนำตัวตั้งต้นนี้ไปต่อยอด เพื่อลดความสูญเปล่า ซึ่งพนักงานในโรงงานยังสามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้พลังงานได้ด้วย และหากเครื่องจักรมีความผิดปกติ หรือตรวจจับได้ก่อนเกิดปัญหา ย่อมเป็นเรื่องที่ดี และจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายภายในโรงงานได้ กฟผ. มุ่งเป็นผู้ให้บริการ Platform อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจประหยัดพลังงาน ผู้ที่ต้องการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายพลังงาน ต้องการติดตามการใช้พลังงาน ควบคุมการใช้พลังงาน และสามารถดูข้อมูลประวัติการใช้พลังงาน ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และมีความน่าเชื่อถือ โดยระบบรองรับทั้ง Web Application และ Mobile Application รวมถึงมีราคาที่เข้าถึงได้ ที่ผ่านมา ENZY Platform ได้ถูกออกแบบและทดลองใช้งานในพื้นที่ EEC นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 3 เป็นระยะเวลา 1 ปี ในช่วงระหว่างปี 2564 โดยผลลัพธ์จากการดำเนินงานในช่วงการวิจัยนั้น ผู้ทดลองใช้งานมีส่วนช่วยในการเสนอแนะเพื่อสนับสนุนให้ Platform สามารถตอบโจทย์และสร้างความพึงพอใจได้เป็นอย่างดี โดยการลงนามสัญญากับบริษัท ซัมเทค (ประเทศไทย) จำกัด นับเป็นรายแรก โดยมีระยะเวลาการให้บริการ 3 ปี นอกจากนี้ ธุรกิจ ENZY Platform ยังเป็นที่สนใจของโรงงานอีกหลายแห่งซึ่งจะมีการลงนาม ภายในปี 2565 นี้ ทั้งนี้ ยังเตรียมนำนวัตกรรมดังกล่าว ขยายผลไปสู่การให้บริการในอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย ตลาด ห้างสรรพสินค้า และศูนย์ราชการ ตามแผนงานในอนาคต ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแล้ว ยังช่วยเสริมความมั่นคง ในระบบไฟฟ้า โดยการก้าวเข้าไปสู่การเป็น Load Aggregator เพื่อลดการใช้พลังงานแบบอัตโนมัติ ผ่านศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ (NCC) ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการนำนวัตกรรมมาส่งเสริมความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้า พร้อมทั้งการเกิดธุรกิจใหม่ ภายใต้ Smart Energy Business Solutions ของ กฟผ. ต่อไป
อ้างอิงจากเว็บไซด์ https://www.egat.co.th/egattoday/index.php?option=com_k2&view=item&id=23230:20230621-egat01 |